เรียนรู้วิธีใช้ภาษาที่เรียบง่ายเพื่อปรับปรุงการเข้าถึงเนื้อหาสำหรับผู้รับสารทั่วโลก ส่งเสริมความเท่าเทียมและการสื่อสารที่ชัดเจนในบริบทที่หลากหลาย
การเข้าถึงเนื้อหาเชิงปัญญา: ภาษาง่ายๆ เพื่อผู้รับสารทั่วโลก
ในโลกที่เชื่อมต่อถึงกันในปัจจุบัน การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง อย่างไรก็ตาม เนื้อหาจำนวนมากที่เราพบเจอทั้งในโลกออนไลน์และออฟไลน์กลับเป็นอุปสรรคสำคัญต่อความเข้าใจ โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางปัญญา ผู้ที่กำลังเรียนภาษา และผู้ที่มีพื้นฐานทางวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน นี่คือจุดที่ การเข้าถึงเนื้อหาเชิงปัญญา (cognitive accessibility) และการใช้ ภาษาง่ายๆ (simple language) เข้ามามีบทบาทสำคัญ
การเข้าถึงเนื้อหาเชิงปัญญาคืออะไร?
การเข้าถึงเนื้อหาเชิงปัญญาหมายถึงแนวปฏิบัติในการออกแบบเนื้อหาและส่วนต่อประสาน (interface) ที่เข้าใจและใช้งานง่ายสำหรับผู้ที่มีความสามารถทางปัญญาที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงบุคคลที่มี:
- ภาวะบกพร่องทางการเรียนรู้ (เช่น ดิสเล็กเซีย)
- สมาธิสั้น (ADHD)
- ความบกพร่องด้านความจำ
- โรคออทิสติกสเปกตรัม (ASD)
- ความเสื่อมถอยทางปัญญาตามวัย
- อุปสรรคทางภาษา
การให้ความสำคัญกับการเข้าถึงเนื้อหาเชิงปัญญาจะช่วยให้เราสามารถสร้างประสบการณ์ที่ครอบคลุมและเป็นมิตรต่อผู้ใช้สำหรับทุกคนได้มากขึ้น
พลังของภาษาง่ายๆ
ภาษาง่ายๆ หรือที่เรียกว่าภาษาธรรมดา (plain language) เป็นรูปแบบการเขียนที่ให้ความสำคัญกับความชัดเจน ความกระชับ และความง่ายต่อการเข้าใจ ไม่ใช่การทำให้เนื้อหา "ด้อยค่าลง" แต่เป็นการนำเสนอข้อมูลในลักษณะที่เข้าถึงได้โดยกลุ่มผู้รับสารที่กว้างที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยไม่คำนึงถึงพื้นฐานหรือความสามารถทางปัญญาของพวกเขา บ่อยครั้งที่คำว่า "ภาษาธรรมดา" และ "ภาษาง่ายๆ" ถูกใช้สลับกัน อย่างไรก็ตาม ยังมีความแตกต่างเล็กน้อยอยู่บ้าง เช่น หลักการ "easy read" ซึ่งรวมถึงการใชภาพประกอบควบคู่ไปกับภาษาง่ายๆ
หลักการสำคัญของภาษาง่ายๆ
มีหลักการสำคัญหลายประการที่เป็นแนวทางในการสร้างเนื้อหาด้วยภาษาง่ายๆ:
- ประโยคสั้นๆ: ใช้ประโยคที่สั้นและตรงประเด็น ตั้งเป้าให้ความยาวเฉลี่ยของประโยคอยู่ที่ประมาณ 15-20 คำ
- ใช้คำศัพท์ง่ายๆ: เลือกใช้คำทั่วไปในชีวิตประจำวันแทนศัพท์เฉพาะทางหรือศัพท์เทคนิค หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรมีคำจำกัดความที่ชัดเจน
- ใช้ Active voice: ใช้ประโยคแบบ Active voice (ประธานเป็นผู้กระทำ) ทุกครั้งที่ทำได้ เพราะเข้าใจง่ายกว่า Passive voice (ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ) ตัวอย่างเช่น แทนที่จะเขียนว่า "รายงานถูกเขียนโดยทีม" ให้เขียนว่า "ทีมเขียนรายงาน"
- โครงสร้างชัดเจน: จัดระเบียบเนื้อหาอย่างมีตรรกะด้วยหัวข้อ หัวข้อย่อย และรายการสัญลักษณ์ที่ชัดเจน
- ใช้คำศัพท์ที่สอดคล้องกัน: ใช้คำศัพท์เดิมอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งเอกสารหรือเว็บไซต์
- ใช้สื่อภาพช่วย: ผสมผสานภาพประกอบ เช่น รูปภาพ แผนภาพ และวิดีโอ เพื่อเพิ่มความเข้าใจ
- ใช้พื้นที่ว่าง: ใช้พื้นที่ว่าง (white space) ให้มากพอเพื่อไม่ให้ผู้อ่านรู้สึกอึดอัด
- ใช้รายการ: แบ่งข้อความยาวๆ ด้วยรายการสัญลักษณ์หรือตัวเลข
- หลีกเลี่ยงสำนวนและคำสแลง: เพราะไม่สามารถแปลข้ามวัฒนธรรมได้ดี
ทำไมภาษาง่ายๆ จึงมีความสำคัญต่อผู้รับสารทั่วโลก
ประโยชน์ของภาษาง่ายๆ นั้นมีมากกว่าแค่สำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางปัญญา ในบริบทระดับโลก ภาษาง่ายๆ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับ:
- ผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาเป็นภาษาแม่: ภาษาง่ายๆ ช่วยให้ผู้ที่กำลังเรียนภาษาใหม่เข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้น
- ผู้ที่มีพื้นฐานทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย: ภาษาง่ายๆ ช่วยลดความเสี่ยงในการตีความผิดเนื่องจากความแตกต่างทางวัฒนธรรมหรือไม่คุ้นเคยกับสำนวนหรือการแสดงออกบางอย่าง
- ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือ: ภาษาง่ายๆ มีประสิทธิภาพมากกว่าบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ที่มีหน้าจอขนาดเล็ก ซึ่งความกระชับเป็นสิ่งสำคัญ
- ผู้ใช้ที่มีอินเทอร์เน็ตจำกัด: ภาษาง่ายๆ สามารถช่วยลดเวลาในการโหลดหน้าเว็บ ทำให้ผู้ใช้ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตช้าเข้าถึงเนื้อหาได้มากขึ้น
ตัวอย่างการใช้ภาษาง่ายๆ ในทางปฏิบัติ
ลองดูตัวอย่างการนำภาษาง่ายๆ ไปใช้ในบริบทต่างๆ:
ตัวอย่างที่ 1: เนื้อหาเว็บไซต์
ต้นฉบับ (ซับซ้อน): "Our synergistic platform leverages cutting-edge technologies to facilitate seamless data integration and optimize stakeholder engagement, thereby maximizing ROI and fostering sustainable growth."
ฉบับภาษาง่าย: "แพลตฟอร์มของเราใช้เทคโนโลยีล่าสุดเพื่อเชื่อมต่อข้อมูลของคุณและช่วยให้คุณทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยให้คุณได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีขึ้นและทำให้ธุรกิจของคุณเติบโต"
ตัวอย่างที่ 2: คำแนะนำ
ต้นฉบับ (ซับซ้อน): "Prior to initiating the software installation process, ensure that all prerequisite dependencies are fulfilled and that the system meets the minimum hardware specifications outlined in the accompanying documentation."
ฉบับภาษาง่าย: "ก่อนติดตั้งซอฟต์แวร์ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีทุกสิ่งที่จำเป็นและคอมพิวเตอร์ของคุณมีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดขั้นต่ำ โปรดตรวจสอบรายละเอียดในเอกสารประกอบ"
ตัวอย่างที่ 3: เอกสารทางกฎหมาย
ต้นฉบับ (ซับซ้อน): "Notwithstanding anything to the contrary contained herein, the parties agree to indemnify and hold harmless each other from and against any and all claims, losses, damages, liabilities, costs, and expenses (including reasonable attorneys' fees) arising out of or relating to the performance of this agreement."
ฉบับภาษาง่าย: "เราตกลงที่จะปกป้องซึ่งกันและกันจากการเรียกร้อง ความสูญเสีย ความเสียหาย และค่าใช้จ่ายใดๆ (รวมถึงค่าธรรมเนียมทางกฎหมาย) ที่เป็นผลมาจากข้อตกลงนี้"
เคล็ดลับในการเขียนด้วยภาษาง่ายๆ
นี่คือเคล็ดลับบางประการที่จะช่วยให้คุณเขียนด้วยภาษาง่ายๆ:
- รู้จักผู้รับสารของคุณ: พิจารณาพื้นฐาน ทักษะทางภาษา และความสามารถทางปัญญาของกลุ่มเป้าหมายของคุณ
- เริ่มต้นด้วยวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน: คุณต้องการให้ผู้รับสารเข้าใจหรือทำอะไรหลังจากอ่านเนื้อหาของคุณ?
- ใช้เครื่องมือตรวจสอบการอ่านง่าย: เครื่องมืออย่าง Flesch-Kincaid readability test สามารถช่วยคุณประเมินความซับซ้อนของงานเขียนได้ โปรแกรมประมวลผลคำและเครื่องมือออนไลน์จำนวนมากมีฟีเจอร์นี้
- อ่านเนื้อหาของคุณออกเสียง: วิธีนี้จะช่วยให้คุณพบสำนวนที่ดูขัดๆ และประโยคที่ซับซ้อนได้
- ขอความคิดเห็น: ขอให้คนที่ไม่คุ้นเคยกับหัวข้อของคุณอ่านเนื้อหาและให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับความชัดเจนและความง่ายในการเข้าใจ ทางที่ดีควรขอให้คนที่สะท้อนถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณเป็นผู้อ่าน
- ใช้เครื่องมือออนไลน์: มีเครื่องมือออนไลน์หลายอย่างที่สามารถช่วยให้คุณปรับภาษาให้ง่ายขึ้นได้ เช่น Hemingway Editor และ Grammarly
- เน้นที่คำกริยา: คำกริยาคือคำแสดงการกระทำในประโยคของคุณ ใช้คำกริยาที่แสดงการกระทำที่ชัดเจนและมีพลังเพื่อให้งานเขียนของคุณตรงไปตรงมาและน่าสนใจยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น แทนที่จะเขียนว่า "การตัดสินใจได้ถูกทำโดยคณะกรรมการ" ให้เขียนว่า "คณะกรรมการตัดสินใจ"
- จำกัดการใช้ศัพท์เฉพาะทางและศัพท์เทคนิค: หลีกเลี่ยงการใช้ศัพท์เฉพาะทางหรือศัพท์เทคนิค เว้นแต่จะจำเป็นจริงๆ หากต้องใช้ ควรมีคำจำกัดความที่ชัดเจน
- แบ่งประโยคยาวๆ: ประโยคยาวๆ อาจเข้าใจยาก โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาเป็นภาษาแม่และผู้ที่มีความบกพร่องทางปัญญา แบ่งประโยคยาวๆ เป็นประโยคสั้นๆ ที่จัดการได้ง่ายขึ้น
- ใช้หัวข้อและหัวข้อย่อย: หัวข้อและหัวข้อย่อยช่วยให้ผู้อ่านสแกนเนื้อหาและค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ใช้หัวข้อที่ชัดเจนและสื่อความหมายซึ่งสะท้อนเนื้อหาของแต่ละส่วนได้อย่างแม่นยำ
- ใช้รายการสัญลักษณ์และรายการ: รายการสัญลักษณ์และรายการสามารถช่วยแบ่งย่อหน้าข้อความขนาดใหญ่และทำให้เนื้อหาของคุณอ่านง่ายขึ้น
ภาษาง่ายๆ และแนวทางการเข้าถึงเนื้อหาเว็บ (WCAG)
แนวทางการเข้าถึงเนื้อหาเว็บ (Web Content Accessibility Guidelines หรือ WCAG) เป็นชุดแนวทางที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลสำหรับการทำให้เนื้อหาเว็บเข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับผู้พิการ แม้ว่า WCAG จะไม่ได้บังคับใช้ภาษาง่ายๆ อย่างชัดเจน แต่เกณฑ์ความสำเร็จหลายข้อก็สอดคล้องกับหลักการของการเข้าถึงเนื้อหาเชิงปัญญาและภาษาธรรมดา
ตัวอย่างเช่น แนวทาง WCAG 3.1, "Readable" (อ่านเข้าใจได้) มุ่งเน้นไปที่การทำให้เนื้อหาข้อความสามารถอ่านและเข้าใจได้ ซึ่งรวมถึงเกณฑ์ความสำเร็จต่างๆ เช่น:
- 3.1.1 Language of Page: ระบุภาษาหลักของหน้าเว็บ
- 3.1.2 Language of Parts: ระบุภาษาของข้อความหรือวลีเฉพาะที่ใช้ภาษาแตกต่างกัน
- 3.1.3 Unusual Words: จัดหากลไกสำหรับระบุคำจำกัดความเฉพาะของคำหรือวลีที่ใช้ในลักษณะที่ไม่ปกติหรือจำกัดความหมาย รวมถึงสำนวนและศัพท์เฉพาะทาง
- 3.1.5 Reading Level: เมื่อข้อความต้องการความสามารถในการอ่านที่สูงกว่าระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (หลังจากลบชื่อเฉพาะและตำแหน่งออกแล้ว) จะต้องมีเนื้อหาเสริม หรือเวอร์ชันที่ไม่ต้องการความสามารถในการอ่านที่สูงกว่าระดับมัธยมศึกษาตอนต้นให้ใช้งาน
การปฏิบัติตามหลักการของภาษาง่ายๆ จะช่วยให้คุณสามารถปรับปรุงความสามารถในการอ่านและความเข้าใจของเนื้อหาเว็บของคุณได้อย่างมาก ทำให้เข้าถึงได้โดยกลุ่มผู้รับสารที่กว้างขึ้น และช่วยให้คุณปฏิบัติตามข้อกำหนดของ WCAG ได้
ประโยชน์ของการลงทุนในการเข้าถึงเนื้อหาเชิงปัญญา
การลงทุนในการเข้าถึงเนื้อหาเชิงปัญญาและภาษาง่ายๆ ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของความรับผิดชอบต่อสังคมเท่านั้น แต่ยังเป็นผลดีต่อธุรกิจอีกด้วย การสร้างเนื้อหาที่เข้าใจและใช้งานง่ายจะช่วยให้คุณสามารถ:
- ขยายการเข้าถึง: เข้าถึงผู้รับสารในวงกว้างขึ้น รวมถึงผู้ที่มีความบกพร่องทางปัญญา ผู้เรียนภาษา และผู้คนจากพื้นฐานทางวัฒนธรรมที่หลากหลาย
- ปรับปรุงความพึงพอใจของผู้ใช้: สร้างประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีขึ้น นำไปสู่การมีส่วนร่วมและความภักดีที่เพิ่มขึ้น
- ลดต้นทุนการสนับสนุน: ลดจำนวนคำร้องขอความช่วยเหลือโดยทำให้ข้อมูลค้นหาและเข้าใจได้ง่ายขึ้น
- เสริมสร้างชื่อเสียงของแบรนด์: แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของคุณต่อความเท่าเทียมและความรับผิดชอบต่อสังคม
- ปรับปรุง SEO: เนื้อหาที่อ่านและเข้าใจง่ายมีแนวโน้มที่จะได้รับการจัดอันดับสูงขึ้นในผลการค้นหาของเครื่องมือค้นหา
- ลดความเสี่ยง: ปฏิบัติตามข้อกำหนดทางกฎหมาย (เช่น กฎหมายการเข้าถึงในประเทศต่างๆ) และลดความเสี่ยงในการถูกฟ้องร้อง
เครื่องมือและแหล่งข้อมูล
มีเครื่องมือและแหล่งข้อมูลหลายอย่างที่สามารถช่วยคุณสร้างเนื้อหาด้วยภาษาง่ายๆ:
- Hemingway Editor: ช่วยเน้นประโยคที่ซับซ้อน คำวิเศษณ์ และประโยคแบบ Passive voice
- Grammarly: ตรวจสอบไวยากรณ์ การสะกดคำ และข้อผิดพลาดทางรูปแบบการเขียน พร้อมให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงความชัดเจน
- Readable.io: วิเคราะห์ความสามารถในการอ่านของเนื้อหาของคุณและให้คำแนะนำเพื่อการปรับปรุง
- Plain Language Action and Information Network (PLAIN): ให้แหล่งข้อมูลและการฝึกอบรมเกี่ยวกับการเขียนด้วยภาษาธรรมดา
- WCAG Guidelines: ให้ข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับแนวทางการเข้าถึงเว็บ
- The A11y Project: โครงการที่ขับเคลื่อนโดยชุมชนเพื่อทำให้การเข้าถึงเว็บเป็นเรื่องง่ายขึ้น
บทสรุป
ในโลกที่กำลังกลายเป็นสากลและเชื่อมโยงถึงกันมากขึ้น การเข้าถึงเนื้อหาเชิงปัญญาและภาษาง่ายๆ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ การให้ความสำคัญกับความชัดเจน ความกระชับ และความง่ายในการเข้าใจ จะช่วยให้เราสามารถสร้างประสบการณ์ที่ครอบคลุมและเป็นมิตรต่อผู้ใช้สำหรับทุกคนได้ ภาษาง่ายๆ ไม่ใช่แค่การทำให้เนื้อหาเข้าถึงได้สำหรับผู้พิการเท่านั้น แต่เป็นการทำให้เนื้อหาเข้าถึงได้สำหรับทุกคน ไม่ว่าจะมีพื้นฐาน ทักษะทางภาษา หรือความสามารถทางปัญญาเป็นอย่างไร การนำหลักการของภาษาง่ายๆ มาใช้ จะช่วยให้คุณขยายการเข้าถึง ปรับปรุงความพึงพอใจของผู้ใช้ และเสริมสร้างชื่อเสียงของแบรนด์ของคุณ มาร่วมกันทำให้โลกนี้เป็นสถานที่ที่เข้าถึงได้และเข้าใจง่ายขึ้น ทีละประโยค